วันพุธที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ผมรักไก่ชน

ผมเป็นเด็กบ้านนอกคนหนึ่งที่เติบโตมาในกระแสไก่ชนมาฟังประวัติไก่ชนคร่าวๆก่อนล่ะกัน

ไก่ชน มีประวัติเล่าขานกันมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช ( 356 - 323 ปี ก่อนคริสตกาล ) ซึ่งเป็นจอมจักรพรรดิของกรีก ได้กรีธาทัพแผ่อิทธิพลขยายอาณาจักรเข้ามายังประเทศอินเดีย มีเรื่องเล่ากันว่าแม่ทัพนายกองได้เห็น การชนไก่ ที่อินเดีย จึงได้นำ ไก่ชน ไปขยายพันธุ์ ณ เมือง อเล็กซานเดรีย ซึ่งอยู่ริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน หลังจากนั้นได้นำไก่ที่ขยายพันธุ์ได้ไปฝึกให้มีชั้นเชิงการต่อสู้แบบโรมัน เพื่อนำไปต่อสู้ในสนามโคลีเซียม
เมื่ออังกฤษปกครองอินเดียได้นำ ไก่ชน จากอินเดียเข้าไปเผยแพร่ในอังกฤษ โดยยอมรับว่า กีฬาไก่ชน เป็นเกมกีฬาที่ควรได้รับความนิยมจากบุคคลชั้นสูงเช่นเดียวกับการแข่งม้าและฟันดาบ นอกจากนี้ กีฬาชนไก่ ยังได้เผยแพร่เข้าไปในประเทศสหรัฐอเมริกาอีกด้วย

ไก่ชนในเมืองไทย

ในอดีต พันธุ์ ไก่ชน ไทยเป็น มรดกของไทย มาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย กรุงศรีอยุธยา จนกระทั่งถึงกรุงรัตนโกสินทร์ มีหลายสายพันธุ์ด้วยกัน แต่ที่สำคัญที่สุดคือพันธุ์ ประดู่หางดำ และ เหลืองหางขาว ในสมัยกรุงสุโขทัย ไก่ชนประดู่หางดำพันธุ์แสมดำ ได้ชื่อว่า ไก่พ่อขุน เนื่องจากว่าเป็นไก่ที่พ่อขุนรามคำแหงมหาราชทรงโปรด สมัยกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงนำ ไก่เหลืองหางขาว จากบ้านกร่าง เมืองพิษณุโลก ไปชนชนะไก่ของพระมหาอุปราชาที่กรุงหงสาวดี ไก่พันธุ์นี้เป็นที่นิยมเลี้ยงกัน ตามซุ้มที่เลี้ยง ไก่ชน มักจะมี ไก่ชนเหลืองหางขาว เลี้ยงไว้เพื่อเป็นไก่นำโชค และนิยมเรียกชื่อว่า ไก่เจ้าเลี้ยง
เนื่องจากประเทศไทยอยู่ใกล้กับอินเดีย จึงทำให้ไทยได้รับขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม และความเชื่อทางศาสนา ตลอดจนศิลปวิทยาการต่างๆมาจากอินเดียหลายอย่าง อาจจะเป็นไปได้ที่ไทยได้นำ ไก่ชน จากอินเดียมาเพาะเลี้ยง และคงจะมีการนำ ไก่ชน เข้ามาก่อนที่อังกฤษจะนำ ไก่ชน ไปจากอินเดีย ทั้งนี้เนื่องจากว่า สมเด็จพระนเรศวรฯ ได้ทรงใช้ ไก่ชน ดำเนินกลยุทธ์ทางการเมืองมาก่อนที่อินเดียจะเสียเอกราชให้แก่อังกฤษเสียอีก แต่อย่างไรก็ตามอาจจะเป็นไปได้ที่ ไก่ชน ของไทยมีมานานก่อนแล้ว แต่ ไก่ชนพันธุ์อินเดีย คงจะเข้ามาในประเทศไทยพร้อมๆ กับศาสนาพราหมณ์และวัฒนธรรมอื่นๆ
การ ต่อไก่ ชนไก่ และการ ฝึกไก่ มีปรากฏอยู่ในวรรณคดีไทยมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ก็มีการละเล่น เพลงปรบไก่ และ การชนไก่ ในฤดูที่ว่างเว้นจากการทำเกษตรกรรมเรื่อยมา จนกระทั่งมาถึง ยุคสมัยเชื่อผู้นำชาติพ้นภัย ( จอมพล ป. พิบูลสงคราม ) ที่ส่งเสริมการทำสวนครัวและเลี้ยงสัตว์ ได้นำ ไก่พันธุ์เล็กฮอร์น พันธุ์ออสตราลอฟ และพันธุ์โรดไอส์แลนด์เรด มาทำการผสมพันธุ์กับ ไก่ชน ที่ชาวบ้านเลี้ยงกันอยู่จนกระทั่งกลายเป็นไก่พันธุ์ทาง ทั้งยังประกาศให้เลิกเลี้ยง ไก่ชน อีกด้วย ไก่ชนเลือดแท้ในยุคสมัยนั้นจึงมีเหลือแอบเลี้ยงกันบางแห่งเท่านั้น ทำให้วงการไก่ชนของไทยซบเซาลงไป ครั้นถึงรัฐบาลนายควง อภัยวงศ์ เป็นนายกรัฐมนตรี จึงได้มีการฟื้นฟู กีฬาไก่ชน ขึ้นมาอีกจนกระทั่งทุกวันนี้ ปัจจุบันการเลี้ยง ไก่ชน แยกออกได้หลายประเภท ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ต่างๆตามความนิยม เช่น เลี้ยงเพื่อการค้า โดยการขายเป็นพ่อพันธุ์ในราคาที่สูง หรือเพื่อการนำไปแข่งขัน และเลี้ยงเป็นอุตสาหกรรมในฟาร์มขนาดใหญ่ เพื่อทำธุรกิจส่งออก เป็นต้น

สายพันธุ์ไก่ชน


1เหลืองหางขาว


2ประดูเลาหางขาว


3ประดูหางดำ
ไก่ชน พันธุ์ ประดู่หางดำ

4เขียวหางดำ

ไก่ชน พันธุ์เขียวหางดำ หรือ เขียวกา

5นกแดงหางแดง

ไก่ชนพันธุ์นกแดงหางแดง

6ลายหางขาว
ไก่ชน พันธุ์ ลายหางขาว

7นกกรดหางดำ

ไก่ชนพันธุ์นกกรดหางดำ

8 เทาหางขาว


9.เขียวเลาหางขาว

ไก่ชนพันธุ์เขียวเลาหางขาว

เรารู้จักไก่ชนกันหมดแล้ว  มามาดูการเลี้ยงไก่ชนกันดีกว่า


วิธีการเลี้ยงไก่ชน
เรื่องที่ 1 วัตถุดิบอาหารที่ใช้เลี้ยงและสูตรอาหารไก่ชน
             อาหารที่ใช้เลี้ยงไก่ชนมีอยู่หลายชนิด แต่ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย คือ ข้าวเปลือก ปลายข้าว และรำ ซึ่งเป็นอาหารที่มีอยู่ในท้องถาน นอกจากนี้ผู้ที่เลี้ยงไก่ชนอาจใช้ข้าวโพด ใบกระถินบดให้ละเอียด กากถั่วเหลือง และปลาป่น ฯลฯ
             โดยหลักการแล้ว ไก่พื้นเมืองต้องการอา หารที่ดีมีคุณภาพที่มีพร้องทั้งไขมัน คาร์โบไฮเดรต โปรตีน แร่ธาตุ และวิตามิน ซึ่งมีพร้อมในอาหารสำเร็จรูป แต่การเลี้ยงไก่ชนในชนบท จะเป็นการเลี้ยงเพื่อรับประทานในครัวเรือน โดยปล่อยให้ไก่ชนงหาอาหารกินเองตามธรรมชาติ จะมีการให้อาหารเสริมบ้าง เช่น ปลายข้าวหรือข้าวเปลือกโปรยให้กินก่อนไก่ชนเข้าโรงเรือน แต่สำหรับผู้เลี้ยงไก่ขนที่ต้องการให้ไก่ชนเจริญเติบโตเร็ว ขายได้ราคาดี ควรให้อาหารที่มีคุณค่าครบถ้วนตามที่ไก่ชนต้องการ อาจใช้หัวอาหารผสมกับปลายข้าวและรำ ในอัตราส่วน 1 : 2 : 2 (หัวอาหาร 1 ส่วน ปลายข้าว 2 ส่วน รำ 2 ส่วน) หรืออาจใช้สูตรอาหารต่อไปนี้
สูตรอาหารที่ใช้เลี้ยงลูกไก่ชน
แรกเกิด จนถึงอายุ 2 เดือน สูตรอาหารที่ใช้เลี้ยงไก่ชนอายุ 2 เดือนขึ้นไป
     1. หัวอาหารอัดเม็ดสำหรับไก่ระยะแรก 8 กิโลกรัม
     2. รำรวม 8 กิโลกรัม
     3. ปลายข้าว 10 กิโลกรัม 1. รำรวม 38 กิโลกรัม
     2. ปลายข้าว 60 กิโลกรัม
     3. เปลือกหอยป่น 2 กิโลกรัม
เรื่องที่ 2 การฟักไข่ไก่ชน
        ปกติแล้วแม่ไก่ชนจะเริ่มให้ไข่ เมืออายุประมาณ 6-8 เดือน จะไข่เป็นชุด โดยเฉลี่ยแล้วประมาณ ปีละ 4 ชุด ชุดละ 8-12 ฟอง แม่ไก่ชนเมื่อไข่หมดชุดแล้วจะเริ่มฟักไข่
ก่อนที่แม่ไก่จะฟักไข่ ควรฆ่าไรและเหาเสียก่อน โดยจับแม่ไก่จุ่มน้ำยาฆ่าไรและเหา เพื่อป้องกันไม่ให้รบกวนในยามฟักไข่การฟักไข่นั้นแม่ไก่จะกกไข่ตลอดคือ และออกหาอาหารกินในตอนเช้า ตอนกลางวันแม่ไก่จะขึ้นกกไข่วันละ 2 ชั่วโมง แล้วออกจากรังไปหากินอาหารสลับกันอยู่อย่างนี้ เมื่อแม่ไก่กกไข่ได้ประมาณ 5-7 วัน ควรเอาไข่มาส่องดูเชื้อ โดยใช้กระดาษแข็งม้วนเป็นรูปกระบอก เอาไข่ไก่มาชิดที่ปลายท่อด้านหนึ่ง แล้วยกขึ้นส่องดูกับแสงแดดหรือส่องกับหลอดไฟนีออนก็ได้ ไข่ที่มีเชื้อจะเห็นเป็นจุดสีดำอยู่ข้างในและมีเส้นเลือดสีแดงกระจายออกไป ส่วนไข่ที่ไม่มีเชื้อจะใสมองไม่เห็นเส้นเลือด ต้องคัดออกและนำไปเป็นอาหารได้ (โดยการต้ม)         การคัดไข่ที่ไม่มีเชื้อออกจะเป็นการช่วยให้แม่ไก่ฟักไข่ที่มีเชื้อได้ดีขึ้นและได้ลูกไก่พื้นเมืองมากขึ้น การส่องไข่เมื่อแม่ไก่ฟักไข่ได้ 5-7 วันแล้ว ถ้าเป็นไปได้ควรส่องเมื่อฟักไข่ได้ 14 และ 18 วันอีกครั้ง เพื่อคัดไข่เชื้อตายหลังจากฟักการส่องครั้งแรกออกมา
ในการฟักไข่นั้น แม่ไก่จะใช้เวลาฟักไข่จนออกเป็นตัวประมาณ 21 วัน เมื่อลูกไก่ฟักออกหมดแล้ว ควรเอาวัสดุที่รองรังไข่รวมทั้งเปลือกไข่เผาทิ้งเสีย และทำความสะอาดรังไข่ไว้สำหรับให้แม่ไก่ไข่อีกต่อไป
เรื่องที่ 3 การเลี้ยงและการดูแลลูกไก่พื้นเมือง
        เมื่อลูกไก่พื้นเมืองออกจากไข่หมดแล้ว ควรให้แม่ไก่เลี้ยงลูกเอง โดยย้ายแม่ไก่และลูกไก่ลงมาขังในสุ่มหรือในกรงในระยะนี้ควรมีถาดอาหารสำหรับใส่รำ ปลายข้าว หรือเศษข้าวสุกให้ลูกไก่กินและมีถ้วยหรืออ่างน้ำตื้น ๆ ใส่น้ำสะอาดให้กินตลอดเวลา
เมื่อลูกไก่พื้นเมืองอายุประมาณ 2 สัปดาห์ ลูกไก่แข็งแรงดีแล้ว จึงเปิดสุ่มหรือกรงให้ลูกไก่ไปหากินกับแม่ไก่ได้โดยธรรมชาติแม่ไก่จะเลี้ยงลูกประมาณ 2 สัปดาห์ หลังจากนั้นให้แยกลูกไก่ออกจากแม่ไก่ โดยนำไปเลี้ยงในกรงหรือแยกเลี้ยงต่างหาก เพื่อให้แม่ไก่ฟักตัวเตรียมไข่ในรุ่งต่อไป
ลูกไก่พื้นเมืองอายุ 2 สัปดาห์ที่แยกออกจากแม่ไก่ใหม่ ๆ ยังหาอาหารไม่เก่งและยังป้องกันตัวเองไม่ได้ ดังนั้นจึงต้องเลี้ยงต่างหากในกรงเพื่อให้แข็งแรงปราดเปรียว และเมื่อมีอายุได้ 1 ? -2 เดือนจึงปล่อยเลี้ยงตามธรรมชาติในระยะนี้ลูกไก่จะมีการตายมากที่สุดผู้ที่เลี้ยงควรเอาใจใส่ดูแลอย่างใกล้ชิดในเรื่องน้ำ อาหาร และการป้องกันโรค

มาดูข่าวไก่ชนกันดีกว่า

ฮือฮา!'ไก่ชน'แพงสุดตัวละล้านกว่า
ฮือฮา! ไก่ชนแพงที่สุดแห่งยุค เสี่ยเมืองขอนแก่นขอซื้อ'จ้าวแข้งขาว'ไก่ชนชื่อดังจากร้อยเอ็ดราคา 1,059,999 บาท


 13 ธ.ค.55 ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า ที่กิตติศักดิ์ฟาร์ม เลขที่ 73 บ้านเหล่าเรือ หมู่ 16 ต.รอบเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นฟาร์มเลี้ยงไก่ชนชื่อดังเมืองร้อยเอ็ด มีนักธุรกิจใจป้ำหอบเงินสดนับล้าน เข้าไปขอซื้อไก่ชนชื่อดังของเมืองร้อยเอ็ด จึงเดินทางไปตรวจสอบ
                ทั้งนี้ ภายในฟาร์มซึ่งเป็นที่เลี้ยงขยายพันธุ์ไก่ชนสายเลือดดี มีไก่ชนพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์นับ 100 ตัว และลูกไก่ขนาดต่างๆจำนวนมาก พบนายวิชัย กุลจิตติพัทธ์ อายุ 62 ปี เลขที่ 128 บ้านโนนตุ่น หมู่ 5 ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น เจ้าของสกุลพัฒน์คอนกรีตฟาร์ม พร้อมบุตรชาย กำลังต่อรองราคาซื้อขายไก่ชนกับนายกิตติศักดิ์ จันทร์ทอง อายุ 33 ปี เจ้าของกิตติศักดิ์ฟาร์ม  โดยขอซื้อ จ้าวแข้งขาว  ไก่ชนชื่อดัง จอมอัจฉริยะ อายุ 1 ปี 8 เดือน  น้ำหนักประมาณ 3.2 กก. ซึ่งเคยชนมาแล้ว 6 ไฟท์ ตีคู่ต่อสู้ตาแตก 9 ตา ตายคาสนาม 1 ตัว ครั้งสุดท้ายได้เงินเดิมพัน 4 แสนบาทเศษ ก่อนจะหยุดชนด้วยวัยอันสมควร แล้วเจ้าของนำมาทำเป็นพ่อพันธุ์ ผสมแม่พันธุ์ได้ลูกออกมาอายุ 2- 3 เดือน ขายลูกได้คู่ละ 5,000 บาท
               อย่างไรก็ตาม จ้าวแข้งขาว เป็นไก่ชอบผสมพันธุ์ ผลิตลูกได้จำนวนมาก ลูกจ้าวแข้งขาวที่ผ่านการดูแลตามระบบเมื่อนำไปชน สามารถชนะคู่แข่งได้เป็นจำนวนมาก ขายได้ราคาตัวละ 5 หมื่น ถึง แสนบาท จนชื่อเสียงกระฉ่อนขึ้นหน้าปกหนังสือชนไก่ ดังไปทั้งใน และต่างประเทศ รวมทั้งนักธุรกิจจาก สปป.ลาว ได้พยายามติดต่อขอซื้อในราคา 1.3 ล้านบาท แต่เจ้าตัวไม่ยอมขาย
               ล่าสุดเสี่ยวิชัย นักธุรกิจ ชาว จ.ขอนแก่น ซึ่งสะสมไก่แม่พันธ์สายเลือดดีไว้กว่า 40 ตัว ได้มองเห็นอนาคต จึงติดต่อขอซื้อเพื่อไปทำพ่อพันธุ์ จำหน่ายซึ่งคาดว่าลูกไก่ที่ได้จากจ้าวแข้งขาวจะสามารถทำรายได้ให้กับฟาร์มของตนได้ปีละหลายล้านบาท โดยเจ้าของยินยอมขายให้เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนได้ซื้อไก่สายเลือดดีไว้ชน และเป็นพ่อพันธุ์ ในราคา 1,059,990 บาท ซึ่งนับว่าเป็นไก่ชนที่มีราคาสูงสุดของไก่ชนในขณะนี้







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น